วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557

บทที่ 6 Supply chain management

Supply Chain Management

            การจัดการกล่มุ ของกิจกรรมงาน กล่าวคือ ตั้งแต่การรับวัตถุดิบมาจาก Supplies 
แล้วเปลี่ยนวัตถุดิบนั้นให้เป็นสินค้าขั้นกลาง และสินค้าขั้นสุดท้าย จนกระทั่งจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า



           สิ่งที่จะทำให้เข้าใจถึงหน้าที่ของการผลิตและวธีการควบคุมการผลิตนั้น เราจะต้อง
เข้าใจในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวในกระบวนการผลิตอยู่ 2 สิ่งหลักๆ คือ

-  วัตถุดิบ (Materials)

-  สารสนเทศ (Information)



ปัญหาคือความสนใจที่แตกต่างกันของผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น

  -  ลูกค้ามักต้องการสินค้าที่ถูกต้องสมบูรณ์แบบและมีราคาถูก
  -  พนักงานในสายการผลิตอยากรู้คำสั่งที่ถูกต้อง
  -  ฝ่ายจัดซื้อต้องการได้วัตถุดิบที่ถูกต้อง มีคุณภาพ
  -  ผู้จำหน่ายวัตถุดิบต้องการคำสั่งซื้อที่ถูกต้องเพื่อจะได้จัดส่งได้ถูกต้อง
  -  ผู้จัดการต้องการรายงานที่ถูกต้อง





Problems of supply chain management



ประโยชน์ของการทำ SCM

  -  การเคลื่อนไหลของวัตถุดิบและสารสนเทศเป็นไปอย่างราบรื่น
  -  ปรับปรุงระดับของสินค้าคงเหลือ
  -  เพิ่มความเร็วได้มากขึ้น
  -  ขจัดความสิ้นเปลืองหรือความสูญเปล่าต่างๆ ในกระบวนการทางธุรกิจให้หมดไปได้
  -  ลดต้นทุนในกิจกรรมต่างๆ ได้
  -  ปรับปรุงการบริการลูกค้า

การบูรณาการในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Integration)

  -  การบูรณาการกระบวนการภายในทางธุรกิจให้เป็นแบบไร้รอยตะเข็บ
ไร้ความสูญเสีย และมีความยืดหยุ่น ใช้นโยบายการทำงานแบบข้ามสายงาน
ลดกระบวนการและขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น

  -  การบูรณาการกับกระบวนการภายนอกนั้นคือบูรณาการกับกระบวนการของลูกค้า
ที่สำคัญและผู้จัดหาวัตถุดิบที่สำคัญให้เข้ากับกระบวนการภายในของบริษัท
อย่างมีประสิทธิภาพ และไร้รอยตะเข็บ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถตอบสนองความ
ต้องการของลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่น และ รวดเร็ว ขณะที่ต้นทุนลดตํ่าลง

  -  การบูรณาการทางเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ เพื่อให้การแลกเปลี่ยน
และประสานข้อมูลข่าวสารภายในองค์กรและระหว่างองค์กรเป็นไปอย่างถูกต้องรวดเร็ว
และมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่นิยมใช้กันได้แก่ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ (E-bussiness)
การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange-EDI)
การส่งจดหมายทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) บาร์โค้ด (Bar Code)
การชี้บ่งตำแหน่งด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Identification-RFID)
อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต ซอฟท์แวร์การวางแผนทรัพยากรวิสาหกิจ
(Enterprise Resource Planning-ERP) เป็นต้น

Value Chain ห่วงโซ่คุณค่า


ตัวอย่าง

การนำ Value Chain มาวิเคราะห์เพื่อนำ IT มาบูรณาให้กับองค์กร






การนำระบบสารสนเทศไปใช้ในการจัดการด้าน Supply Chain

            Supply Chain Management คือ การจัดการเชื่อมกิจกรรมต่างๆที่สัมพันธ์กัน
ระหว่างผู้ผลิต (Supplier) ผู้จัดจำหน่าย(Distributor) และลูกค้า (Customer)
กลยุทธ์ทางด้าน Supply Chain นั้นได้แก่ ความพยายามที่จะผูกลูกค้า ผู้ผลิต
หรือผู้จัดจำหน่ายกับธุรกิจ เรียกว่า Lock-in Customers หรือ Lock-in Suppliers
เพื่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไปทำธุรกิจกับผู้อื่น (Switching Cost) มีสูงขึน

ตัวอย่างของการนำสารสนเทศมาใช้ในองค์กร

UPS แข่งขันไปทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ

         บริษัท United Parcel Service หรือ UPS ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่อันดับหนึ่งของโลก
ในด้านการจัดส่งพัสดุทางบก ทำการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2450 และยังคงเป็นบริษัท
อันดับหนึ่งในปัจจุบันจากการที่ไม่เคยหยุดอยู่กับการพัฒนาบริการให้ดีขึ้น

         UPS ใช้คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่า Hand-held Computer การบันทึก
ข้อมูลลายเซ็นลูกค้าเวลาที่รับหีบห่อและเวลาที่ส่งหีบห่อจากนั้นส่งผ่านข้อมูล
โดยผ่านระบบเครือข่ายของโทรศัพท์ไร้สาย หรือ Cellular Telephone Network
ภายในรถไปยังคอมพิวเตอร์หลักของบริษัทที่ตั้งอยู่ทั่วโลกทำให้สามารถทราบได้
ว่าพัสดุอยู่ที่ไหน

         ซึ่งระบบนี้จะใช้ บาร์โค้ด ( Bar Code ) เป็นตัวบันทึกข้อมูลหีบห่อที่รับและส่ง
เพื่อส่งผ่านข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง ทำให้ฝ่ายขายสามารถตอบคำถาม
ลูกค้าเกี่ยวกับพัสดุได้รวมทั้งลูกค้าของ UPS สามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้
ได้เองทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือ ( WWW ) หรือการใช้ซอฟต์แวร์พิเศษของ UPS
รวมทั้งลูกค้าสามารถเข้าไปใน WWW ตรวจสอบเส้นทางการขนส่ง คำนวณอัตราค่าส่งหีบห่อ
และจัดตารางการรับ/ส่งหีบห่อได้และในอนาคตก็จะสามารถจ่ายค่าส่งทางอินเตอร์เน็ตได้

          นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 2534 UPS ยังเสนอบริการใหม่ด้วยการส่งสินค้าภายใน24 ชั่วโมง
 และบริษัทยังสามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางหรือหยุดการส่งในระหว่างทางได้หากลูกค้าต้องการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น